หอบหัวใจมาใส่ปก

เหมือนทุก ๆ ปี
เดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นเดือนที่ดอกไม้ขายดีที่สุด
หลัง ๆ เลยไม่แน่ใจว่า … ความรักไปซ่อนอยู่ในกลีบดอกไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ใคร ๆ จึงขวนขวายที่จะซื้อมอบให้กันจนราคาเริ่มไม่น่ารัก
ผมแทบไม่ค่อยได้ซื้อดอกไม้ให้ใคร
นอกจากดอกไม้ไหว้พระ และพวงมาลัยให้ญาติผู้ใหญ่
แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมอบดอกไม้…
เพียงแต่ โดยส่วนตัวแล้ว นิยมมอบสิ่งอื่นมากกว่าดอกไม้กลีบบางเท่านั้นเอง
สิ่งของที่ผมนิยมมอบให้ผู้ที่รู้สึกดีด้วย กลับเป็น “หนังสือ” เล่มเล็ก
ผมถือว่า การเลือกหนังสือให้ใครสักคนเป็นเรื่องที่ท้าทาย
และเป็นรายละเอียดที่ต้องเอาใจใส่อยู่ไม่น้อย
เพราะแต่ละคนมีรสนิยมการอ่านที่ไม่เหมือนกัน
แต่ผมคิดดูแล้วว่า หนังสือเล็ก ๆ หนึ่งเล่ม
บอกเล่าเรื่องราวมากมาย และผู้รับก็คงต้องใช้เวลาอยู่กับหนังสือเล่มนั้นพอสมควร
หากบังเอิญ ความรักในหน้ากระดาษประทับใจผู้รับ
เขาจะกลับมาอ่านอีกเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ปันให้ผู้อื่นอ่าน
หัวใจก็ได้กระจายตัว
ไม่เหมือนดอกไม้ … หอม สวย หวาน ก็เพียงไม่นาน
ส่งต่อคนอื่นก็คงกระไรอยู่
หรือบางที ผมอาจจะกลัวในใจลึก ๆ
ไม่อยากให้ความรักของผมหอมหวานเพียงข้ามวัน
มีอยู่บางครั้ง … หา “หนังสือ” ที่เหมาะกับคนรับไม่ได้
หรือหนังสือบนแผงไม่อาจสื่อความรู้สึกดี ๆ ได้หมด
ผมก็เพียรลอง “ทำ” หนังสือเสียเอง
ตั้งแต่สมัยที่ “หนังสือทำมือ” ยังไม่ฮิต
ได้ทดลองพิมพ์ วาดรูป ตัดแปะ และให้ร้านถ่ายเอกสารข้าง ๆ จุฬาฯ ช่วยเข้าเล่ม
ไม่ใช่หนังสือดีเด่น แต่เป็นหนังสือธรรมดาที่มาด้วยใจ
จากวันนั้น เลยยิ่งตระหนัก … และเลือกที่จะให้ “หนังสือ” มากกว่าอย่างอื่น
เพราะการเลือกหนังสือให้เหมาะกับผู้รับนั้น ว่ายากแล้ว
การใส่ความรักลงในหน้ากระดาษ ยากยิ่งกว่า
และการให้ผู้รับอ่านหนังสืออย่างค่อยเป็นค่อยไป อ่านทุกหน้า จนจบเล่ม
เข้าใจความหมายที่วางไว้… เป็นเรื่องที่ยากที่สุด
คงเคยได้ยินที่เขาเปรียบเทียบ “ความรัก” ของคนเหมือน “หนังสือ”
บางเล่มปกสวย แต่เปิดอ่านแล้วไม่สนุก
บางเล่มดูภายนอกธรรมดา แต่เริ่มอ่านแล้ววางไม่ลง
บางเล่มเริ่มต้นสนุก แต่จบไม่ประทับใจ
และอีกหลายเล่มที่อ่านแล้ว น้ำตาไหล แต่ไม่เคยหยุดยิ้ม
ความรักของคนคงคล้ายหนังสือ
มีบทเปิด ช่วงกลางเรื่อง และตอนจบ
ไม่มีหนังสือเล่มไหน ที่อ่านสนุกตั้งแต่ต้นจนหน้าสุดท้าย
อ่านไป ต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจ และเข้าถึงคนเขียน
บางบทอาจหนักเกินอ่านต่อ
ลองหยิบที่คั่นหนังสือมาพักไว้ แล้วไปทำอย่างอื่นก่อน
กลับมาเปิดอ่านอีกครั้ง อาจเข้าใจเรื่องราวนั้น ๆ ได้ชัดเจนกว่าเคย
=========================================
วันนี้ คงยังไม่มีโอกาสได้มอบ “หนังสือ” เป็นเล่มไปให้
แต่ก็ยังไม่เคยคิดหยุด ที่จะส่งมอบความรู้สึกดี ๆ
เปลี่ยนหน้ากระดาษ เป็นหน้าจอ … รอคนอ่าน
และอยากให้ความรักได้ถูกส่งผ่าน เป็นกำลังใจ
ให้ทุก ๆ วัน เป็นวันของความรัก :-)

11 thoughts on “หอบหัวใจมาใส่ปก

  1. nok says:

    Happy Valentine’s day. Thank you for a small book on this page. If the life is unlike to the book, is it better? The love would not be up and down like the beginning and the ending of the book but the life will be smooth. The fighting will not be occurred between couple life. Even it is normal life but it may be good.

  2. ป้าเปิ้ล says:

    happy valentine from singapore ja.
    นอนเซ็งอยู่ในห้อง มีหนังสือเล่มนี้อ่านแก้เหงาดีนะ
    อย่าหยุดทำหนังสือเล่มนี้ละ เดี๋ยวคนอ่านจะเหงา

  3. เพื่อนคนไกล says:

    เราเองก้อชอบทำหนังสือเองเหมือนกัน ปีที่แล้วใช้เวลาทำหลายเดือนเพื่อที่จะเอาไปให้คนพิเศษ ปีนี้ไม่ได้ทำ เพราะไม่มีคนพิเศษ…แต่ว่าวันพิเศษแบบนี้เราจะอยู่เฉยไม่ได้ ก้อเลยซื้อกุหลาบแดงให้กำใหญ่ให้ตัวเอง…บอกรักกับตัวเอง ว่าตัวเองสำคัญแค่ไหน โทรไปบอกรักตคุณพ่อคุณแม่ แค่นี้ก้อชุ่มชื่นหัวใจแล้ว แต่ก้อหวังไว้ว่าปีหน้าคงจะหาคนมอบหนังสือให้ได้ แต่คนๆ นั้นไม่จำเป็นต้องให้หนังสือกลับมา ขอแค่ดอกไม้ซักช่อก้อพอ ไม่จำเป็นต้องเป็นดอกไม้ราคาแพง แค่แฝงความจริงใจบวกกับความในใจก้อพอ…ตายล่ะ…เช้าแล้วเหรอเนี้ย ฝันหวานไปซะไกลเลย…
    สาวอีสานรอรัก

  4. ปกติจะซื้อดอกไม้ไว้ที่โต๊ะทำงานทุกวันจันทร์
    แต่จันทร์ที่ผ่านมาไม่กล้าซื้อ………เขิน

  5. Someone says:

    ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์…
    การอ่าน…ตัวหนังสือดีๆก็ทำให้ความ’คิด’ ได้เดินทางเสมอ
    น่าขอบคุณผู้บรรจงเรียงร้อยถ้อยคำ…
    ที่ทำให้เราได้สัมผัสคุณค่าอีกเสี้ยวหนึ่งของโลกใบนี้
    มากกว่าที่เราลำพังจะนึกไป’ถึง’
    และก็น่าขอบคุณผู้ส่งผ่านคุณค่านั้นให้ผู้อื่นร่วมค้นหา
    เชื่อแน่ว่าหนังสือของเธอคงไม่ได้หอมหวานเพียงข้ามวัน…

  6. จิ๊บ says:

    เห็นด้วยอย่างยิ่ง ได้รับหนังสือดีกว่าดอกไม้เป็นไหนๆ เพราะหนังสือกี่ปีก็ไม่เหี่ยว เก็บไว้ดูได้นานๆ แถมได้ความรู้อีกต่างหาก แต่ถ้าได้รับดอกไม้พร้อมกํบหนังสือก็คงน่าชื่นใจดีเหมือนกันนะ

  7. Boom says:

    โหย …. อยากมีคนให้มั่งอ่ะ หนังสือทำด้วยมือ ส่งมาจากใจ

  8. อัจฉรา says:

    อ่านแล้วก็อมยิ้มทีเดียวค่ะ นึกว่าจะมีแต่เราคนเดียวที่เวลาไปอ่านหนังสือของนักเขียนเล่มไหนแล้ว เกิดความปลื้ม ประทับใจเราก็อยากให้คนที่เรารักอ่านด้วยเค้าจะได้รู้สึกดีๆๆ อย่างเดียวกับเราไง พอมาอ่านคอลัมน์นี้ของพี่แล้วก็ยิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่ ….คงจะส่งข่าวให้เพื่อนๆๆ มาอ่านเวบนี้บ่อยๆๆ แล้วค่ะ
    มะเฟือง…ที่รอฝาน

  9. ตูน-อลงกรณ์ says:

    ตูนจะหอบหัวใจมาใส่ปกครับ
    เพื่อให้คนพิเศษของตูนอ่านหนังสืออย่างค่อยเป็นค่อยไป
    อ่านทุกหน้า จนจบเล่มและเข้าใจความหมายที่วางไว้…

Comments are closed.