ณ โมงยามแห่งความรัก

ช่วงนี้อากาศแปรปรวน…
ท้องฟ้ายังงง ๆ กับฤดูกาลของตน
ผมเองก็เลยเบลอ ๆ กับชีวิตที่ไม่ค่อยได้เอกเขนกเท่าไรนัก
ต่อมความฝันทำงานบกพร่อง ฮอร์โมนจากหัวใจผลิตน้อยกว่าปกติ
ยังดีที่ช่วงนี้ แม้ลมหนาวในเดือนแห่งความรัก จะเลยผ่านพ้นไปแล้ว
แต่ผมยังได้มีโอกาสไปร่วมแสดงความยินดีกับคนรู้จักใกล้ ๆ ตัว
ที่ตัดสินใจเปลี่ยนจังหวะการเดินของชีวิต
จากบทเพลงโซโล่เดี่ยว มาขับทำนองเป็นลำนำคู่ร่วมเส้นทางกัน
เห็นผู้คนมีความสุข จากการได้รัก
ได้มอบความรัก และสุขใจที่ได้ถูกรัก …
แค่นี้ ก็เป็นยาบำรุงชั้นดีให้หัวใจได้ทำงานอย่างชุ่มชื่น
===================================

วันพิเศษของเพื่อนสนิท ที่เป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วอีกหนึ่งคู่ เป็นงานแต่งงานที่เรียบง่าย น่ารัก และอบอุ่นที่สุดงานหนึ่งที่เคยไปร่วมมา
ผมเองมีโอกาสได้รับเกียรติให้ไปช่วยเก็บภาพงานหมั้นในช่วงเช้า
ก็จัดเป็นพิธีที่เรียบร้อย ราบรื่น
และเป็นกันเองอย่างที่สุด มีการเลี้ยงพระสำหรับงานแต่ง
และถือโอกาสเป็นการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของคู่บ่าวสาวไปด้วยเลย
เสร็จพิธีทางการ ก็ต้องรอฤกษ์ส่งตัวในช่วงบ่าย ระหว่างการรอคอย
เจ้าบ่าวกับน้องชายก็เล่นกีตาร์ มีคุณพ่อเจ้าสาวและคุณแม่เจ้าบ่าวล้อมวงร่วมร้องเพลง
ทั้งเพลงคลาสสิครุ่นป๋า และเพลงสุดแนวรุ่นลูก
เป็นการรอฤกษ์ส่งตัวที่ครึกครื้นระรื่นหู และน่ารักจริง ๆ

กระทั่งงานพิธีในตอนเย็น ก็ยังไม่ทิ้งแนวทางค่ำคืนแห่งเสียงเพลง
มีเพื่อนสนิท และพี่น้องที่รู้จักกันมาร่วมร้องเพลงอวยพรกันพร้อมหน้า
ผมเองยังลืมตัวนึกว่ามาดูคอนเสิร์ตกลางสวนสวย…
คุณพ่อเจ้าสาวมีเพลงพิเศษที่แต่งเนื้อเอง ร้องต้อนรับคู่บ่าวสาวช่วงที่กำลังเดินขึ้นบนเวที เจ้าบ่าวเองก็แต่งเพลงส่วนตัวมาร้องสด ๆ เป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ
แต่ช่วงเวลาที่ผมว่าน่ารักสุด ๆ ก็ตอนที่เจ้าสาวร้องเพลงให้เจ้าบ่าวบ้าง โดยมีน้องชายมาเล่นกีตาร์ให้ เพลงที่เลือกมาร้องนั้นความหมายดี แต่ก็ร้องยากเอาการ
เจ้าสาววิ่งหาคีย์อยู่นานจนเกือบจบเพลง
แต่ ณ เวลานั้น ความรู้สึกดี ๆ ไม่ได้อยู่ที่ความไพเราะของการเอื้อนเอ่ยทำนอง หากอยู่ที่ความตั้งใจและความรู้สึกทั้งหมดที่มี
ถ่ายทอดผ่านไปให้ผู้ชายคนที่จะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต
เนื้อจะผิด ทำนองจะเพี้ยน ผู้ฟังทุกคนก็หัวเราะ ปรบมือให้ และช่วยร้องคลอ
วินาทีนั้น ผมรู้สึกได้ถึงคำพูดที่ว่า…

“ความรัก ลอยอยู่ในอากาศ”

===================================
ชีวิตวุ่นวาย .. อากาศแปรปรวน
โปรดดูแลอย่าให้หัวใจรวนเร
ความรัก ยังเป็นสิ่งสวยงาม และมีความหมายลึกซึ้ง
เกี่ยวโยงกับผู้คน ไม่จำกัดวัย เพศ หรือชนชั้น
แม้ว่า ทุกวันนี้ คุณค่าและความหมายของความรัก
จะถูกแปรเปลี่ยนด้วยบริบทของการตลาดสมัยใหม่ และภาพลักษณ์ที่ฉาบฉวย
ทำให้ความรัก มักเหลือรูปแบบที่จำกัดไม่กี่ด้าน
แต่ความรักที่แท้ ยังคงแสดงตนด้วยการให้ … ให้กับคนรอบข้างได้มีความสุข
หลายสัปดาห์ก่อนได้ดูรายการโทรทัศน์ พูดถึงมูลนิธิเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ที่สำหรับผมแล้ว .. ที่นี่ เป็นตัวแทนของคำว่า รัก…ที่ออกแบบได้จริง ๆ
มูลนิธิ Wishing Well Foundation ริเริ่มโครงการส่งชีวิตสุขสมหวังก่อนสิ้นลม
ที่มีแนวคิดในการช่วยกันดูแล มอบความรัก ให้ความรู้สึกดี ๆ กับน้อง ๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
เด็ก ๆ เหล่านี้ ไม่รู้ว่าตนเองจะมีโอกาสได้สัมผัสกับโลกใบนี้อยู่อีกนานเท่าไหร่
ความเหนื่อยล้าจากการบำบัดรักษา ความเหนื่อยใจจากการที่ไม่มีโอกาสได้เล่นเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ๆ
สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ีที่ขาดหาย ถูกเติมเต็มด้วยความเสียสละและตั้งใจจริงของพี่น้องอาสาสมัครของมูลนิธิ
คนเหล่านี้เข้ามาช่วยเป็นเพื่อนเล่น เพื่อนคุย และเป็นพี่เลี้ยงพาน้อง ๆ เหล่านี้เดินทางไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ
รวมทั้งจัดกิจกรรมให้เด็กน้อยได้พบเจอดารานักแสดงคนโปรดที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ
ร่องรอยการเติมเต็มความฝัน ความรู้สึกดี … น่าจะเป็นมุมมองความรักในอีกแบบ
เป็นความรักที่ไม่ได้เรียกร้อง หรือถามหาคำตอบ
หากแต่เป็นการถามหาคนรอบข้าง ว่ามีความสุขดีอยู่ไหม

ในห้วงเวลาที่หัวใจเหนื่อยล้า หรือแปรปรวนเหมือนอากาศข้างนอก
อย่างน้อย ขอให้ภายในหัวใจได้อบอุ่น สงบนิ่ง และพร้อมแบ่งปัน

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หากจะไม่สบายเป็นไข้
ก็ขอให้เป็นไข้หวัดรัก ละกันนะครับ :-)

ปล. รายละเอียดอื่น ๆ ขอมูลนิธิ Wishing Well Foundation ลองหาอ่านดูได้ตามนี้ครับ
http://www.wishingwellthai.org/memory/page3.html http://board.palungjit.com/showthread.php?t=81327

11 thoughts on “ณ โมงยามแห่งความรัก

  1. เด็กบ้านโคก says:

    ขอบคุณนะครับสำหรับข้อความดี ๆ และภาพสวยๆ ที่เอามาให้อ่านและชมกันเป็นประจำ ช่วงนี้มีคนแต่งงานกันเยอะมากๆ เดือนหน้าผมก็จะไปงานแต่งงานของพี่สาวเพื่อนครับ

  2. นกน้ำ says:

    เห็นคนอื่นมีความสุข ได้อ่านอะไรที่บ่งบอกถึงว่าโลกนี้มีอะไรที่สวยงามปรากฏอยู่ทุกกาล ไม่ใช่เลวร้ายเหมือนทีพบเห็นในหนังสือพิมพ์หรือ ที.วีชีวิตก็แช่มชื่นนะ..โลกก็ดูเย็นด้วย เมื่อไหร่จะถึงตาช่างภาพซะทีหละ

  3. ย้งยี้ says:

    สวัสดีค่ะคุณ???
    พอดีว่า เราอยากจะทำเวบส่วนตัว
    เอาไว้บอกเล่าเรื่องเที่ยว+เรื่องรอบตัว
    รวมถึง อวดรูปถ่ายด้วย
    ก็เลยมานั่งคิดๆว่าจะเอาชื่อเวบว่าอะไรดี
    ทีนี้ก็เลยมาปิ๊งที่คำว่า เอกเขนก
    ก็เลยลองไปเช็คดูอ่ะค่ะว่า มีคนใช้รึยัง
    ก็เลยบังเอิญมาเจอเวบของคุณเข้า
    แล้วก็รู้สึก ถูกใจ ใช่เลย
    เพราะเวบที่เราตั้งใจจะทำ ก็อารมณ์ประมาณนี้เลยค่ะ
    อยากได้เรียบๆง่ายๆสบายๆ
    ทีนี้ คำว่า เอกเขนก ที่เราจะใช้น่ะ
    มันจะสะกดว่า ekkanek
    ซึ่งไม่ได้เหมือนของคุณซะทีเดียว
    แต่เราว่า มันก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
    เพราะยังไงมันก็คำเดียวกัน แถมยังสะกดใกล้เคียงกัน
    และที่สำคัญ คอนเซปท์ยังใกล้เคียงกันอีก
    เราก็เลยจะเคารพสิทธิ์ของคุณ ผู้ซึ่งใช้ก่อนและมาก่อน
    ก็เลยอยากจะมาถามอ่ะค่ะว่า ถ้าเราจะทำเวบชื่อ ekkanek.net เนี่ย
    คุณจะว่าอะไรไหมเอ่ย?
    ถ้าไม่สะดวกใจและหวง ก็ไม่เป็นไรนะคะ ไม่ว่ากัน
    ยินดีที่จะไปหาคำอื่นมาใช้แทนค่ะ :)

  4. ย้งยี้ says:

    เอ? จริงๆใส่เมล์ไปให้ด้วยแล้วนะคะ
    แต่ไม่แน่ใจอ่ะค่ะว่า มันเก็บค่าไว้ให้รึป่าว
    เพราะงั้น ให้อีกที ตรงนี้เลยละกันนะคะ
    eyongyee แอด hotmail.com ค่ะ
    :)

  5. ekanake says:

    สวัสดีครับ คุณย้งยี้
    ขอบคุณที่ส่งข่าวถึงกัน โดยส่วนตัวแล้วผมไม่มีปัญหาคาใจใด ๆ เลยครับ
    คนเราชื่อซ้ำกันเยอะแยะไป
    และที่ผมทำเว็บนี้ ก็ไม่ได้ทำเพื่อการค้าที่จะได้ถือเป็นสิทธิ์ หรือลิขสิทธิ์ใด ๆ
    หากทำแล้ว upload เสร็จ ก็แจ้งข่าวกันด้วยนะครับ
    จะได้แวะไปเยี่ยมเยียน :-)

  6. ย้งยี้ says:

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
    ทำเสร็จเมื่อไหร่ จะเอามาอวดแน่นอนค่ะ :)

  7. พี่โอ เอ็มสิบหก says:

    gallery กะ wallpaper ลิ้งค์ตายอ่ะคับ

  8. Boom & Note says:

    เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน แม้จะผ่านไป 4 เดือนแล้วก็ตาม
    ขอบใจนะจ๊ะ เอก ที่หยิบถ้อยคำน่ารักๆ และอบอุ่นร้อยเรียงและถ่ายทอดเป็นเรื่องราวความรัก ให้เป็นที่ระลึกในคืนวันสำคัญของเราและพี่โน๊ต
    ขอบคุณสำหรับทุกๆ เรื่องนะคะ
    เมื่อไหร่เอกกะปุ๊กจะมีเรื่องราวความรักของตัวเอง มาเรียงถ้อยร้อยคำให้คนอื่นอ่านกันบ้างคะ
    บุ๋มและโน๊ต

Comments are closed.