ผมไม่ได้กลับมาเยือน Ho Chi Minh ในรอบสี่ปี
เพราะเคยเจ็บช้ำน้ำใจกับคนที่นี่เมื่อหลายปีก่อน
หนนี้มีเหตุให้ได้กลับมาเยือนด้วยมิตรภาพใหม่ๆ
โฮจิมินห์เปลี่ยนไปไม่น้อย แต่ก็ยังมีร่องรอยเก่าๆให้เห็นคุ้นตา
====================================
โฮจิมินห์ ในเช้าวันอาทิตย์
ถนนหลายเส้นยังเงียบสงบกว่าช่วงเวลาปกติ
ผมปล่อยตัวเองตามสองเท้าซอกแซกไปเรื่อยๆจากประตูที่พัก
ใจหนึ่งก็กลัวหลงทาง แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าอาจได้เจออะไรใหม่ๆเป็นสีสันให้การเดินทางรอบนี้
ยังจำความรู้สึกของตอนที่หลงทางอยู่ท่ามกลางตรอกแคบ ถนนที่ปูด้วยหินเก่าๆ และสะพานข้ามคลองลัดเลี้ยวใน ‘เวนิซ (Venice)’ ได้ดี.. หนนั้นหลงทางเพราะมัวแต่เพลินดูผู้คน เลยหลงทิศแบบตั้งหลักไม่ถูก หันไปทางไหนก็เหมือนกันหมด จากความตระหนกในช่วงแรก กลายเป็นความสนุกในการหาเส้นทางกลับ และระหว่างทางก็เจอตรอกสายใหม่ เจอสะพานข้ามคลอกอีกด้านที่ไม่เคยผ่าน สุดท้าย..เพราะการหลงทาง เราเลยไปเจอร้านกาแฟที่อร่อยมากที่สุดร้านหนึ่งในการเดินทางครั้งนั้น
เช้าวันนี้ ที่โฮจิมินห์ไม่เหมือนกัน..
ไม่สามารถปล่อยตัวเองให้หลงทางได้ไกลขนาดนั้น
เพราะมีนัดหมายที่ต้องออกเดินทางต่อ ผมจึงมีจังหวะที่จะหลงทางได้ในระยะสั้นๆ ^_^
เดินดูผู้คนที่เอื่อยเฉื่อย ทำตัวสบายๆ ในตอนสายของวันหยุด มาได้สักพัก
หูได้ยินเสียงเพลงลอยมา มั่นใจว่าไม่ใช่เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงของร้านอาหารที่ไหน
น่าจะเป็นการเล่นดนตรีสดมากกว่า
เท้าออกเดินทางตามทิศทางของเสียง สายตาจดจำลักษณะตึกต่างๆรอบตัวเผื่อตอนขากลับ
เลาะมาใกล้ต้นเสียงเรื่อยๆ จนเจอกับ Saigon Opera House
บนบันไดลานกว้าง นักดนตรีตัวน้อยอายุสัก 10 กว่าขวบบรรเลงเพลงเพราะตามจังหวะการนำของวาทยากรหนุ่มที่อายุไล่เลี่ยกัน
ตรงกลางลานด้านล่าง ผู้คนนั่งดูบนเก้าอี้พลาสติก บางส่วนขี่มอเตอไซค์มาจอดดูเป็นครอบครัว
สถานที่ไม่ได้หรูหราเหมือนคอนเสิร์ตฮอลล์ แต่บรรยากาศเช้าวันนี้ก็อวลไปด้วยความรื่นรมย์ เสียงปรบมือ และเสียงหัวเราะ
ผมเห็นเด็กๆหลายคนในกลุ่มผู้ชม มองดูรุ่นพี่นักดนตรีเบื้องหน้าด้วยความชื่นชม
หวังว่าในกลุ่มนี้จะมีสักคนที่เห็นคุณค่าของเสียงดนตรีและออกเดินทางตามรอยบ้าง
ผมยังเห็นผู้สูงวัยหลายคนมานั่งชม ดูเผินๆเป็นกลุ่มคนฟังที่ไม่ใช่แนวทางของเพลงสวิง หรือบิ๊กแบนด์สักเท่าไหร่ น่าจะเป็นคุณยายของนักดนตรีบางคนบนเวที
ในแววตา..คุณยายอาจไม่ได้เข้าใจความลึกซึ้งของเพลงมากเท่าที่อยาก
แต่เชื่อว่าในหัวใจ คุณยายอิ่มเอิบไม่แพ้ใคร
การส่งต่อความสุขระหว่างคนสองรุ่นได้เกิดขึ้นแล้ว
=======================================
ไม่รู้ว่า จะเดินหลงทางอีกบ่อยแค่ไหน
เรื่องการงานที่ตั้งใจมาติดต่อที่เวียดนาม จะสำเร็จหรือไม่…ก็ยังไม่รู้
โฮจิมินห์ อาจจะยังใจร้ายกับผมอยู่เหมือนเก่า
แต่เช้าวันนี้ ณ เวลานี้ … ผมมีความสุขที่ได้หลงทางมา