PETRA : ภาพนั้นตรึงตรา .. แต่ เพตรา นั้น ตรึงใจ

:: PETRA ::
ภาพนั้นตรึงตา .. แต่ เพตรา นั้น ตรึงใจ
- Jordan the Journey -

The first sight of the Treasury

หนึ่งในเหตุผลของคนส่วนใหญ่ ที่เลือก “จอร์แดน” เป็นจุดหมายของการเดินทาง
ก็คือการได้มาเยือน “นครเพตรา (PETRA)” เมืองสาบสูญ หรือนครสีกุหลาบ
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
(New 7 Wonders of the World)

ความยิ่งใหญ่ของเพตรา ย้อนกลับไปเป็นพันปี
นับแต่ช่วง 300 ปี ก่อนคริสตกาล
นครเพตรา คือ เมืองหลวงของ ชาวนาบาเธียน (Nabatean)
ชนเผ่าโบราณของจอร์แดน ที่สร้างเพตราให้เป็นศูนย์กลางการค้าขาย
ที่ใดมีผู้คน มีการแลกเปลี่ยนสินค้า อารยธรรมต่างๆ ก็เกิดการหลั่งไหลแลกเปลี่ยนกันด้วย
กษัตรย์นาบาเธียนมั่งคั่งจากเก็บเงินค่าผ่านทางของกองคาราวานสินค้า ที่เดินทางตามเส้นทางสายไหม (Silk Road)
เชื่อมต่อเอเชีย แอฟริกา และยุโรปในยุคนั้น
นครแห่งนี้จึงสั่งสมองค์ความรู้ ศิลปะ และวัฒนธรรมจากทั่วสารทิศ
แต่ที่ดูจะมีอิทธิพลมากที่สุดก็หนีไม่พ้น กรีก-โรมัน
เห็นได้จากสิ่งปลูกสร้าง การตกแต่ง หรือแม้กระทั่งสุสาน

Petra Arts

เมืองเพตราซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาวาดี มูซา (Wadi Musa) ซึ่งชัยภูมิเหมาะสมในการใช้หลบพักจากภัยธรรมชาติ
และที่สำคัญคือ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำใต้ดิน ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตกลางทะเลทราย
ตัวเมืองเกิดขึ้นจากการสกัดหินไลม์สโตน (Limestone) เข้าไปเป็นช่องสำหรับทำเป็นอยู่อาศัย เก็บเสบียงอาหาร
ตัวผาหินมีสีชมพู เกิดจากแร่เหล็กที่อยู่ภายใน เป็นที่มาของชื่อ… นครสีกุหลาบ (Rose City)

สถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของเพตรา
คือหน้าผาหินที่ถูกสลักเสลา เป็นเสาหินโรมัน และรูปปั้นอย่างสวยงาม สูงตระหง่านรับแสงแดด
มีชื่อว่า The Treasury ชื่อเหมือนที่เก็บสมบัติ แต่แท้จริงแล้ว เป็นสุสานฝังศพของกษัตริย์โบราณ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชื่อที่ตั้งให้ดูน่าค้นหาหรือเปล่า ทำให้ชาวพื้นเมืองในยุคต่อมา ต่างพยายามขุดค้นสมบัติที่ซ่อนอยู่
ร่องรอยแตกหัก และรูพรุนที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน ก็คือรอยกระสุนปืนที่คนกระหน่ำยิง
ด้วยหวังว่าจะทำสมบัติที่ซ่อนไว้หลุดออกมานั่นเอง..

=========

วันที่ผมไปเยือนเพตรา ตรงกับวันสงกรานต์ไทย 13 เมษาฯ พอดี
นับแต่ที่เราก้าวออกจากจุดสตาร์ท
หน้าศูนย์นักท่องเที่ยวนครเพตรา
ฝนก็ปรอยลงมาเป็นช่วงๆ
เจ้าหน้าที่ไกด์ท้องถิ่นยังแซวเลยว่า
พวกเราเอาฝนมาฝากเขาด้วย
เพราะฝนไม่ตกนานแล้ว
ช่วงนี้ ไม่ใช่ฤดูฝน
และปกติ ปริมาณน้ำฝนทั้งปีของจอร์แดน ก็น้อยกว่าไทยเกือบ 4 เท่า
แถมปีนี้ เป็นปีที่คนจอร์แดนบอกว่า แล้งกว่าหลายปีที่ผ่านมา
แต่ฝนก็ดันมาตก และตกอย่างหนักเสียด้วยในวันนั้น…
กลายเป็นว่า ได้เล่นสงกรานต์ในดินแดนทะเลทราย กับเทวดากันเลย
เอากะเราสิ!

Walking 'n' Raining

สายฝนพรมใส่หน้าแทบตลอดการเดินเท้า
มีหยุดเป็นช่วงๆ ให้เราได้พอหยิบกล้องออกมาเก็บภาพบ้าง
แต่ความฝันที่จะได้เห็นแสงแดดสาดผ่านแนวผาหินที่สูงเกือบ 200 เมตรนั้นหายไปหมด
ตลอดเส้นทางเดินในหุบเขา “ซิค (Siq)” ที่คดเคี้ยวไปมา
บางช่วงจึงเป็นการเดินก้มหน้า หลบฝนที่โปรยละอองเป็นม่านคลุมท้องฟ้า

เดินมาถึงจุดหนึ่ง ไกด์บอกว่า มีอะไรเด็ดๆ จะให้ดู
ให้พวกเราเข้าแถวเรียงเดี่ยวตรงซอกเขาเล็กๆ จุดหนึ่ง
ชี้ให้เราหันหน้ามองย้อนกลับไปยังเส้นทางที่เพิ่งเดินมา
แต่ละคนก็มองหา เขาให้ดูอะไรหว่า…
มองไปก็ยังไม่เห็นอะไรที่พอจะสะดุดตาเป็นพิเศษได้เลย
ทิ้งเราให้งงกันอยู่พักนึง
ไกด์ก็เฉลยด้วยการสะกิดให้เรากลับหลังหันอีกครั้ง มองพ้นช่องเขาเบื้องหน้าออกไป
ทั้งสองด้านของเราคือซอกผาที่สูงขึ้นไปทั้งซ้ายขวา มองผ่านๆ เหมือนกรอบรูปสีดำขนาดใหญ่
สุดปลายสายตานั้นเอง เราจึงได้เห็น …

The Treasury

The Treasury
ปรากฏภาพเป็นอาคารสีชมพูสว่างชัดอยู่กลางกรอบรูปสีดำตรงหน้า
สวย สง่างาม ยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยายใดๆ
ไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่เห็น เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่ค่อยๆบรรจงสกัดหินที่ละเล็กละน้อย
เสาขนาดใหญ่ 12 ต้นตรงหน้า ไม่ได้มาจากการหล่อเสาแล้วยกไปตั้งวาง
แต่เป็นการค่อยๆแกะหน้าผาเข้าไปจนเป็นเสา รองรับโครงสร้างไว้อย่างน่าอัศจรรย์

(เห็นในรีวิว ไกด์ท้องถิ่นหลายคนก็ใช้มุกนี้
ตอนที่จะชี้ให้ลูกทัวร์เห็นว่ามาถึง The Treasury แล้ว
แต่ในวินาทีนั้น หลังจากเดินมาจนเหนื่อย เมื่อหันกลับไปเห็นภาพตรงหน้า มันสวยงามจริงๆ)

============

The Treasury เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในความยิ่งใหญ่ของนครเพตรา
จริงๆ ยังมีร่องรอยประวัติศาสตร์สำคัญๆ ที่อยากให้ผู้มาเยือนได้แวะชมอีกมากมาย
จะให้ครบรส ควรจะอยู่ในเพตราสัก 2 วัน
และหาโอกาสมาเยือนเพตราในตอนกลางคืน เป็นทัวร์พิเศษที่เรียกว่า Petra by Night
ซึ่งเขาจะจุดเทียนกว่า 1,500 เล่ม
ตลอดทางเดินในหุบเขา Siq ยาวไปถึงลานด้านหน้า The Treasury
แสงเทียนคงสว่างแข่งแสงดาวบนฟ้า…

เสียดาย .. เวลาของผมที่เพตรามีน้อย
แถมเจอฝนเป็นของแถมที่ไม่ได้รับเชิญ
เราจึงต้องลาจากกัน แบบคนคุยกันยังไม่จบเรื่องดี

Raining in Petra

ชีวิต บางทีก็ไม่ได้มีจังหวะลงตัวให้เราเสมอไป
เราเองต่างหาก มองเห็น และเดินให้เข้ากับจังหวะชีวิตไหม…

คำพูดสั้นๆของไกด์ ก่อนจะแยกจากกัน
ทำให้ผมเข้าใจว่า การมาเยือนเมืองมรดกโลกที่เดินทางสุดทุลักทุเล ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
บางที กลายเป็นภาพจำที่ใครหลายคนอาจไม่ได้เจอ

เขาบอกว่าจริงๆแล้วเราโชคดีนะที่ฝนตก

เพราะฝนช่วยลดละอองฝุ่นในอากาศ
รวมทั้งชะล้างคราบ และฝุ่นทรายตามหินผาต่างๆ ออกไป
ทำให้เราได้เห็นสีสันที่แท้จริงของเมืองเพตรา

Because of the rain…
now you can see the real color of Petra!

^_^

#petra #jordan #jordanthejourney